ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

อุปาทานยึดมั่นถือมั่นว่า “ตัวกู” “ของกู”


ต้นตอแห่งความวุ่นวายทั้งมวลเกิดจากความเชื่อที่ผิดพลาดงมงาย (ยึดมั่นถือมั่นว่า “ตัวกู” “ของกู” )

อัตตาในตัวมนุษย์นี้ได้แก่สภาวะที่ทำหน้าที่คิดนึก สัมผัสอารมณ์และเสวยผลตอบแทนทั้งที่ดีและไม่ดีอันเกิดจาก
การกระทำของตนทั้งมวลการรับรู้เช่นนั้นเขาเรียกกันว่าอัทิฏฐิพระพุทธศาสนายืนกรานปฏิเสธอย่างหนักหน่วงถึง
ความมีอยู่ แห่งอัตตาหรืออาตมัน ตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าความคิดว่ามีตัวตนจัดเป็นความเชื่อที่ผิดพลาด
งมงายขัดต่อความเป็นจริง และยังก่อให้เกิดอุปาทานยึดมั่นถือมั่นว่า “ตัวกู” “ของกู” เพิ่มขึ้นอีกอันจะก่อให้เกิดความ
เห็นแก่ตัว ความยึดติด ความโลภ ความโกรธ ความพยาบาท ความทะนงตนความถือดี ความหลง และกิเลสาสวะ
อื่นๆ อีกร้อยแปดพันประการ ทั้งยังเป็นต้นตอแห่งความวุ่นวายทั้งมวลนับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างบุคคลกระทั่งถึง
การสู้รบกันระหว่างคนในชาติพูดสั้นๆก็คือว่า ความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นในโลกล้วนมีมูลมาจากความเห็นผิดนี้ทั้งสิ้น

มนุษย์เรานั้นมีหลักความคิดที่ฝังรากลึกอยู่ด้วยกัน ๒ ประการ คือ:-
๑. ความคิดปกป้องตนเองให้ปลอดภัย (self Protection) ๒. ความคิดรักษาตนเองให้อยู่รอด (self Preservation)
การที่มนุษย์ได้สร้างพระเจ้าขึ้นก็เพื่อปกป้องตนเองให้ปลอดภัย และการที่มนุษย์ได้ยอมรับหลักความคิดที่ว่าวิญญาณหรืออาตมันเป็นอมตะก็เพื่อรักษาตนให้อยู่รอด มนุษย์ตกอยู่ในอำนาจความโง่เขลา ความอ่อนแอ ความกลัว และความปรารถนา จึงได้สร้างสองสิ่งนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นหลักประกันให้ตนดำรงชีวิตอยู่อย่างอบอุ่นใจ จนกลายเป็นยึดถืออย่างเหนี่ยวแน่น

คำสอนของพระพุทธเจ้ามิได้สนับสนุนความโง่ ความอ่อนแอ ความกลัวและความต้องการในลักษณะดังกล่าวนี้เลย ตรงกันข้ามกลับมีจุดมุ่งหมายต้องการให้มนุษย์ขจัดมันให้หมดสิ้นไปด้วยวิธีการขุดค้นถึงต้นตอที่แท้จริงเพื่อความรู้แจ้ง ตามแนวพระพุทธศาสนา หลักความคิดเรื่องพระเจ้าและวิญญาณนับว่าไร้สาระ เป็นเพียงส่วนเกินทางด้านจิตใจที่ได้รับการแต่งเติมให้ละเอียดอ่อนด้วยการใช้ถ้อยคำที่สละสลวย มีเหตุผลและแฝงไปด้วยหลักปรัชญา ด้วยเหตุนั้น มนุษย์จึงต่างพากันเชื่อมั่น จนไม่ปรารถนาจะได้ยิน ไม่ต้องการจะทำความเข้าใจคำสอนอื่นใดที่เห็นว่าขัดกัน

เรื่องนี้พระพุทธเจ้าของเราทรงทราบดี จึงตรัสย้ำอยู่เสมอว่าคำสอนของพระองค์ทวนกระแสคือต่อต้านความต้องการที่เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ หลังตรัสรู้ ได้เพียง ๔ สัปดาห์ภายใต้ต้นอชปาลนิโครธ พระพุทธองค์ได้ทรงรำพึงว่าสัจธรรม (Truth) ตถาคตได้รู้แจ้งแล้ว แต่สัจธรรมนั้นจะเข้าใจได้ก็แต่คนที่ฉลาดเท่านั้น เหล่าสัตว์ที่ถูกอวิชชาห่อหุ้ม มืดมนด้วยโลภโกรธหลงไม่สามารถจะเข้าใจได้เลย เพราะเป็นธรรมสุขุมคัมภีรภาพไหลทวนกระแส
ความคิดดังกล่าวทำให้พระองค์ทรงลังเลพระทัยอยู่ระยะหนึ่ง ครั้นแล้วจึงทรงยกกอดออกบัวขึ้นมาเป็นหลักอุปมา กล่าวคือ ในกอบัวกอหนึ่งดอกบัวที่โผล่ขึ้นมาเสมอระดับน้ำก็มี ที่โผล่ขึ้นพ้นน้ำก็มี ที่ยังจมอยู่ใต้น้ำก็มี ฉันใด ในโลกนี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน เหล่าสัตว์ย่อมมีสติปัญญาแตกต่างกัน คนที่จะเข้าใจได้คงจะมีอยู่บ้าง ดังนั้น พระองค์จึงตัดสินพระทัยสอนสัจจธรรมนั้น (วิ. มหา. ๔/๙/๑๑ ; ม.มู. ๑๒/๓๒๓/๓๒๕ )










ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

พุทธคือวิถีแห่งปัญญา (ตอนที่ ๒)

พุทธคือวิถีแห่งปัญญา (ตอนที่ ๒)   ถ้าหากจะต้องจัดลำดับใหม่ให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น มรรคที่มีองค์ประกอบ ๘ ประการดังกล่าวก็คือ สิกขา ๓ หรือไตรสิกขาที่เรียกว่า อธิศีลสิกขา อธิจิตตสิกขา และอธิปัญาสิกขา สิกขา   ตามความหมายของพุทธนั้น คือ กระบวนการรับรู้หรือเรียนรู้ที่ผ่านการปฏิบัติและได้ประจักษ์แจ้งจริง ส่วน อธิ นั้นหมายถึง ใหญ่ หรือสำคัญ ดังนั้น อธิและสิกขาก็คือการเรียนรู้ยิ่งขึ้นไปของศีล จิตต (สมาธิ) และปัญญา อันเป็นลักษณะพลวัตของไตรสิกขาดังกล่าว หรือกล่าวโดยย่อก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา คือ องค์ประกอบสำคัญที่จำเป็นจะต้องมีการพัฒนายิ่งขึ้นไปอย่างต่อเนื่องเพื่อการบรรลุนิพพานนั่นเอง จึงจำแนกได้ดังนี้      ดังนั้นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดที่จะยกระดับจิตของมนุษย์ก็คือปัญญาซึ่งเป็นจุดเน้นที่สำคัญที่สุดของพุทธธรรมและเนื่องจากปัญญามีความสำคัญที่สุดกระบวนการสร้างปัญญาจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งจุดนี้เป็นจุดที่ขาดหายไปจากการวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์มนุษยนิยม        เพื่อการเข้าใจที่ชัดเจนของกระบวนการยกระดับหรือสร้างเสริมทาง...

นิทานสุภาษิตจีนเรื่อง ลุงโง่ย้ายภูเขา

   มีชายชราคนหนึ่งชื่อว่า ลุงหยูกง แกตั้งบ้านเรือนอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่หลังภูเขาสองลูกชื่อว่า ไท่เชียงและหวังหวู ภูเขาสองลูกนี้ สูงนับพัน เริน กว้างใหญ่ถึง 700 ตารางลี้ ทุกคนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่หลังเขาทั้งสองลูกนี้ ไม่สะดวกในการเดินทางเพราะภูเขามาปิดกันความ สะดวกสบาย แต่ด้วยความเคยชินไม่มีใครสนใจต่ออุปสักข้อนี้ ลุงหยูกงแกก็ใช้ชีวิติไปตามปกติเหมือนคนทั่วไป หรือแกจะคิดถึงอุปสักข้อนี้ อยู่บ้างตามนิทานก็ไม่ได้บันทึกไว้ และอีกข้อหนึ่งที่นิทานไม่ได้บันทึกไว้ก็คือไม่เคยปรากฏว่าแกเคยเป็นกำานัน ตามนิทานจึงไม่เรียกแกว่า “ลุง กำานัน  หยูกง”   จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งแกเกิดดำาริขึ้นในใจว่า”เราก็ทำาอะไรต่อมิอะไรมาในชีวิติมากมายถูกบ้างผิดบ้างเป็ นธรรมดาของคน สามัญทั่วๆไป แต่ครั้งนี้เราได้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้วว่า ไอ้ภูเขาสองลูกนี้ที่ขวางความเจริญของหมู่บ้านเราอยู่นี้ จะต้องขุดย้ายออกไป ไม่ให้เป็นอุปสักขัดขวางความเจริญก้าวหน้าของหมู่บ้านต่อไปอีก ว่าแล้วแกก็ชวนลูกหลานและเพื่อนบ้านที่เห็นด้วยกับแกให้มาช่วยกันขุดย้าย ภูเขา ยังมีเพื่อนบ้านของลุงหยูกงคนหนึ่งชื...

วิธีการดาวน์โหลดและใช้งาน DeepSeekทั้งบน PC และ บนโทรศัพท์มือถือ

    วิธีการดาวน์โหลดและใช้งาน  DeepSeek บ น PC ขั้นตอนที่ 1: เข้าเว็บไซต์ DeepSeek 1.  เปิดเบราว์เซอร์บน PC ของคุณ ( เช่น Google Chrome, Microsoft Edge, Firefox) 2.  3.  เข้าไปที่เว็บไซต์หลักของ DeepSeek:   https://www.deepseek.com ( หากมีแอปพลิเคชันเฉพาะ ให้ดูในขั้นตอนถัดไป ) 4.  ขั้นตอนที่ 2: สมัครสมาชิกหรือลงชื่อเข้าใช้ ·  หากคุณยังไม่มีบัญชี : ·  1.  คลิกปุ่ม   สมัครสมาชิก   หรือ   Sign Up 2.  3.  กรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น อีเมล , รหัสผ่าน , และข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็น 4.  5.  ยืนยันอีเมล ( หากจำเป็น ) โดยการคลิกลิงก์ที่ส่งไปยังอีเมลของคุณ 6.  ·  หากมีบัญชีแล้ว : ·  1.  คลิกปุ่ม   ลงชื่อเข้าใช้   หรือ   Log In 2.  3.  กรอกอีเมลและรหัสผ่าน 4.  ขั้นตอนที่ 3: เริ่มใช้งาน DeepSeek ·  หลังจากลงชื่อเข้าใช้แล้ว คุณจะเข้าสู่หน้าหลักของ DeepSeek ·  ·  คุณสามารถเริ่มใช้งานได้ทันที โดยพิมพ์คำถามหรือข้อความในช่องแชท แล้วกด Enter เพื่อรับคำตอบ ·...