จีนยืนหยัดสู้เต็มกำลังในสงครามการค้า สะท้อนความมั่นใจผ่านคำคม 8 อักษรแห่งภูมิปัญญาโบราณ
ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองยักษ์ใหญ่โลกอย่างจีนและสหรัฐฯ กลับมาอีกครั้ง เมื่อล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยแผนเก็บภาษีตอบโต้จีนในวันที่ 2 เมษายน หลังจีนขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ ท่ามกลางความร้อนระอุ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน “หวาง อี้” ตอบกลับด้วยวลีสั้นลึกซึ้ง 8 อักษรจากคัมภีร์โบราณ “เมิงซีอุส” (行有不得,反求诸己) แปลว่า “หากทำสิ่งใดไม่สำเร็จ จงมองหาคำตอบภายในตัวตน” เปรียบเสมือนกระจกสะท้อนให้สหรัฐฯ หันกลับมาตั้งคำถามกับนโยบายของตัวเอง แทนการโทษผู้อื่น
จีนชี้สหรัฐฯ คือผู้สร้างปัญหา ไม่ใช่เหยื่อ
วลี 8 อักษรของหวาง อี้ ไม่เพียงเป็นคำคมจากอดีต แต่ยังเปรียบเสมือนมีดคมที่ชี้นิ้วไปที่รากปัญหาสงครามการค้า นั่นคือ “ความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจภายในสหรัฐฯ เอง” แทนที่สหรัฐฯ จะปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจและแก้ไขจุดอ่อน กลับเลือกใช้มาตรการกีดกันการค้าแบบฝ่ายเดียว สร้างความปั่นป่วนให้ระบบเศรษฐกิจโลก จีนย้ำว่าการเจรจาอย่างเท่าเทียมคือทางออก ไม่ใช่การข่มขู่ด้วยภาษี
3 อาวุธลับของจีนที่ทำให้ไม่หวั่นเกรงมาตรการสหรัฐฯ
ตลาดใหญ่-อุตสาหกรรมครบวงจร: ด้วยประชากร 1.4 พันล้านคน และอัตราการเติบโตจีดีพี 5.2% ในปี 2022 จีนมีฐานการผลิตที่แข็งแกร่งและกำลังซื้อภายในประเทศมหาศาล แม้ถูกกดดันจากต่างชาติ แต่ตลาดภายในยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ต่อเนื่อง มูลค่าการค้าปลีกพุ่งทะลุ 44 ล้านล้านหยวน สะท้อนศักยภาพการบริโภคที่ยังเติบโต
ยุทธศาสตร์ขยายพันธมิตรทั่วโลก: แผน “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ช่วยกระจายความเสี่ยงทางการค้า โดยปี 2022 จีนทำการค้ากับประเทศตามเส้นทางนี้กว่า 30% ของการค้าต่างประเทศทั้งหมด พร้อมเสริมความร่วมมือกับอาเซียน สหภาพยุโรป และแอฟริกา
เทคโนโลยีพึ่งพาตนเอง: การลงทุนวิจัยพัฒนาอย่างหนักใน 5G ปัญญาประดิษฐ์ และพลังงานสะอาด ช่วยลดการพึ่งพาเทคโนโลยีสหรัฐฯ ขณะที่อุตสาหกรรมจีนกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ “อัจฉริยะผลิตกรรม” (Smart Manufacturing)
เสียงสนับสนุนจากโลก เป็นพลังให้จีนยืนหยัด
นโยบายพหุภาคีของจีนได้รับการตอบรับจากหลายชาติ ที่ต่างเห็นพ้องว่าการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ขัดกับหลักการค้าเสรี การที่จีนยืนกรานใช้มาตรการตอบโต้อย่างมีสัดส่วน ไม่เพียงแสดงความเด็ดขาด แต่ยังเป็นก้าวย้ำให้สหรัฐฯ หันกลับมาเจรจา แม้จีนพร้อมเจรจากับสหรัฐฯ ทุกเมื่อ แต่จะไม่ยอมเสียหลักการเพื่อการประนีประนอม
บทสรุป: สงครามการค้าไม่ใช่เกมที่ผู้มีตลาดใหญ่ที่สุดจะชนะเสมอไป แต่เป็นการทดสอบภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจ จีนพิสูจน์แล้วว่ามี “ภูมิต้านทาน” จากตลาดภายใน นวัตกรรม และเครือข่ายพันธมิตรระดับโลก ซึ่งไม่เพียงช่วยให้รับมือกับแรงกระแทกจากภายนอกได้ แต่ยังส่งสัญญาณถึงความเป็นผู้นำเศรษฐกิจใหม่ที่ไม่อิงแค่ตลาดตะวันตกอีกต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น