ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

พระพุทธเจ้าสอนอะไร/ประกอบดนตรีเพลงไทยเดิม



ภาววิสัยของสังคมไทยในขณะนีมีสิ่งบอกเหตุแห่งความเสื่่อมถึงขั้นวิกฤต
แต่ก็่ยังดีที่่มีพระพุทธศาสนาช่วยค้ำจุนอยู่ได้ หากว่าคนในสังคมไม่จมอยู่กับอวิชชาและอาสวกิเลส  
ผู้ต่ื่่นรู้ด้วยปัญญา ช่วยกันค้นหาและเข้าให้ถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาตามที่่พระพุทธเจ้าได้ทรงสอนไว้ เพื่่อช่วยให้สังคมได้มองเห็นทางออกร่วมกัน
 

 พลังงานชีวิต


   ท่านผู้อ่านได้ทราบมาแต่แรกแล้วว่าชีวิตของสัตว์โลกทั้งหลายนั้นปรากฏมีขึ้นมาเพราะการอาศัยกันของพลังงานหรือคุณสมบัติทางร่างกายและทางจิตใจสิ่งที่เรียกว่าความตาย ก็คือความแตกสลายของร่างกาย(รูป)นั้นเองมีคำถามว่าพลังงานและคุณสมบัติทุกอย่างแตกสลายหมดไปพร้อมการแตกสลายไปของร่างกายอย่างนั้นหรือ? พระพุทธศาสนากล่าวไว้ว่าเปล่าเลยความจงใเจตนา ความต้องการความหิวกระหายทะยานอยากที่จะอยู่และที่จะสืบต่อชีวิตให้มากยิ่งขึ้นโดยไม่มีที่สิ้นสุดนั้นเป็นพลังรวมมหาศาทำให้มีชีวิต มีภพมีชาติแม้กระทั่งโลกทั้งมวลอันนี้เป็นพลังงานและคุณสมบัติของชีวิตทุกชีวิต สำคัญมากตามหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาพลังรวมอันนี้ไม่ได้แตกสลายไปพร้อมกับการแตกสลายของร่างกายซึ่่งเรียกว่าตายด้วยเลย แต่กลับทำการสืบต่อแสดงผลออกมาในรูปต่างๆนำไปสู่ภพใหม่ชาติใหม่ หรือการเกิดใหม่อีกต่อไป
 

    มาถึงตอนนี้มีคำถามเกิดขึ้นมาว่าถ้าหากว่าไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอนไม่มีภาวะที่เปลี่ยนแปลงหรือสิ่งที่เป็นสาระแก่นสารเช่นตัวตนหรืออาตมันแล้วอะไรล่ะสามารถสืบต่อชีวิต หรือการเกิดใหม่หลังจากตายไปแล้วได้เล่า? ก่อนที่จะเข้าใจเรื่องชีวิตหลังจากตายไปแล้วขอให้มาพิจารณาว่าอะไรล่ะที่เรียกว่าชีวิตและการสืบเนื่องต่อกันไปอย่างไรที่เรียกว่าชีวิตตามที่มีกันซ้ำแล้วซ้ำอีกนั้นก็คือการรวมกันอยู่ของเบญจขันธ์ได้แก่การยังอาศัยของร่างกายและจิตใจ พลังที่ทำให้เกิดการอาศัยกันอยู่นี้เปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปตลอดเวลาอย่างรวดเร็วมาก ทุกขณะจะมีการเกิดดับตลอดเวลาเป็นสาย พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่าดูกรภิกษุทุกครั้งที่เบญจขันธ์เกิดและแตกสลายดับไปเธอก็มีการเกิดและแตกสลายดับไปทุกขณะเช่นกันดังนั้นแม้ในชีวิตปัจจุบันเราก็เกิดดับทุกขณะติดต่อกันไป (เกิดแล้วดับดับแล้วก็เป็นปัจจัยให้เกิดอีก) ถ้าสามารถเข้าใจได้ว่าในชีวิตปัจจุบันนี้มีการสืบต่อไปได้ในลักษณะที่มีการเปลี่ยนแปลงแปรปรวนและหาตัวตน (อาตมัน)มิได้นี้แหละแล้วทำไมจะไม่เข้าใจถึงพลังที่สามารถทำให้ชีวิตสืบต่อไปได้โดยไม่มีตัวตนหรืออาตมันหลังจากการแตกไปของร่างกายเล่า



   เมื่อรูปร่างกายหมดสภาพที่จะทำหน้าที่ต่อไปอีกได้แล้วพลังงานภายใน (นามธรรม) มิได้แตกสลายไปตามรูปร่างกายด้วยเลยแต่ทำหน้าที่สืบต่อชีวิตในเรือนร่างใหม่ต่อไปเช่นชีวิตตอนเด็กๆ สภาพทางร่างกายจิิตใจ และสติปัญญายังไม่เจริญและแข็งแรงพอ
แต่ภายในตัวเด็กนั้นมีพลังความสามารถพร้อมอยู่แล้วที่จะเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ต่อไปได้พลัง งานภายในทั้งของร่างกายและจิตใจนี้ที่สร้างชีวิตขึ้นมาก็มีพลังงานพร้อมทุกอย่างที่จะสร้างรูปร่างใหม่และเจริญเติบโตเรื่อยๆ มาจนสมบูรณ์แบบ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นิทานสุภาษิตจีนเรื่อง ลุงโง่ย้ายภูเขา

   มีชายชราคนหนึ่งชื่อว่า ลุงหยูกง แกตั้งบ้านเรือนอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่หลังภูเขาสองลูกชื่อว่า ไท่เชียงและหวังหวู ภูเขาสองลูกนี้ สูงนับพัน เริน กว้างใหญ่ถึง 700 ตารางลี้ ทุกคนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่หลังเขาทั้งสองลูกนี้ ไม่สะดวกในการเดินทางเพราะภูเขามาปิดกันความ สะดวกสบาย แต่ด้วยความเคยชินไม่มีใครสนใจต่ออุปสักข้อนี้ ลุงหยูกงแกก็ใช้ชีวิติไปตามปกติเหมือนคนทั่วไป หรือแกจะคิดถึงอุปสักข้อนี้ อยู่บ้างตามนิทานก็ไม่ได้บันทึกไว้ และอีกข้อหนึ่งที่นิทานไม่ได้บันทึกไว้ก็คือไม่เคยปรากฏว่าแกเคยเป็นกำานัน ตามนิทานจึงไม่เรียกแกว่า “ลุง กำานัน  หยูกง”   จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งแกเกิดดำาริขึ้นในใจว่า”เราก็ทำาอะไรต่อมิอะไรมาในชีวิติมากมายถูกบ้างผิดบ้างเป็ นธรรมดาของคน สามัญทั่วๆไป แต่ครั้งนี้เราได้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้วว่า ไอ้ภูเขาสองลูกนี้ที่ขวางความเจริญของหมู่บ้านเราอยู่นี้ จะต้องขุดย้ายออกไป ไม่ให้เป็นอุปสักขัดขวางความเจริญก้าวหน้าของหมู่บ้านต่อไปอีก ว่าแล้วแกก็ชวนลูกหลานและเพื่อนบ้านที่เห็นด้วยกับแกให้มาช่วยกันขุดย้าย ภูเขา ยังมีเพื่อนบ้านของลุงหยูกงคนหนึ่งชื่อว่า ลุงจือโช่ว เม

ภาวะมลพิษจากโรงกลั่นน้ำมัน

ภาวะมลพิษจากโรงกลั่นน้ำมัน ( ผศ.ดร. สุปราณี แก้วภิรมย์) เป็นที่ทราบกันดีว่าก่อนที่จะใช้ประโยชน์จากปิโตรเลียมนั้น ปิโตรเลียมหรือน้ำมันดิบที่ค้นพบจะถูกนำมากลั่นเสียก่อน การกลั่นน้ำมันดิบก็คือการย่อยสลายส่วนประกอบของปิโตรเลียมออกเป็นส่วนต่างๆ ที่แตกต่างกันมากมาย เช่น น้ำมันเบนซิน น้ำมันก๊าด น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันดีเซล น้ำมันหล่อลื่น น้ำมันเตา ถ่านโค้ก ขี้ผึ้ง ยางมะ-ตอย และแก๊สหุงต้ม เป็นต้น   โรงกลั่นน้ำมันในประเทศไทยมีทั้งสิ้น 7 แห่ง ได้แก่โรงกลั่นน้ำมันบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) โรงกลั่นน้ำมันบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด โรงกลั่นน้ำมันบริษัทโรงกลั่นน้ำมันระยอง จำกัด โรงกลั่นน้ำมันบริษัทสตาร์ปิโตรเลียมรีไฟน์นิ่ง จำกัด โรงกลั่นน้ำมันบริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) โรงกลั่นน้ำมันบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) และ โรงกลั่นน้ำมันบริษัทระยองเพียวริฟายเออร์ จำกัด (มหาชน) โรงกลั่นน้ำมันเหล่านี้เกือบทั้งหมดตั้งอยู่ที่ภาคตะวันออกของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขตนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และระยอง และเป็นที่น่าสังเกตว่าประชากรที่อาศัยอยู่ในพื้นดังกล่า

พุทธคือวิถีแห่งปัญญา (ตอนที่ ๒)

พุทธคือวิถีแห่งปัญญา (ตอนที่ ๒)   ถ้าหากจะต้องจัดลำดับใหม่ให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น มรรคที่มีองค์ประกอบ ๘ ประการดังกล่าวก็คือ สิกขา ๓ หรือไตรสิกขาที่เรียกว่า อธิศีลสิกขา อธิจิตตสิกขา และอธิปัญาสิกขา สิกขา   ตามความหมายของพุทธนั้น คือ กระบวนการรับรู้หรือเรียนรู้ที่ผ่านการปฏิบัติและได้ประจักษ์แจ้งจริง ส่วน อธิ นั้นหมายถึง ใหญ่ หรือสำคัญ ดังนั้น อธิและสิกขาก็คือการเรียนรู้ยิ่งขึ้นไปของศีล จิตต (สมาธิ) และปัญญา อันเป็นลักษณะพลวัตของไตรสิกขาดังกล่าว หรือกล่าวโดยย่อก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา คือ องค์ประกอบสำคัญที่จำเป็นจะต้องมีการพัฒนายิ่งขึ้นไปอย่างต่อเนื่องเพื่อการบรรลุนิพพานนั่นเอง จึงจำแนกได้ดังนี้      ดังนั้นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดที่จะยกระดับจิตของมนุษย์ก็คือปัญญาซึ่งเป็นจุดเน้นที่สำคัญที่สุดของพุทธธรรมและเนื่องจากปัญญามีความสำคัญที่สุดกระบวนการสร้างปัญญาจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งจุดนี้เป็นจุดที่ขาดหายไปจากการวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์มนุษยนิยม        เพื่อการเข้าใจที่ชัดเจนของกระบวนการยกระดับหรือสร้างเสริมทางปัญญา  จะต้องหันกลับมาศึกษาองค์ประกอบของมนุษ