กาลามสูตร
สมัยหนึ่่ง พระพุทธเจ้าเสด็จไปเยือนนิคมแห่งหนึ่่ง เรียกช่ื่อว่า เกสปุตตะ๑ ในแคว้นโกศลชาวนิคมนี้รู้จักกันโดยชื่อสามัญว่า กาลามะ เมื่อพวกกาลามะเหล่านั้นได้สดับว่า พระพุทธเจ้าประทับอยู่ในนิคมของตนชาวกาลามะทั้งหลายจึงได้มาเฝ้าพระองค์แล้วกราบทูลพระองค์ว่า :-
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มีสมณะและพราหมณ์บางพวกที่มาเยี่ยมเยือนเกสปุตตะนิคม สมณพราหมณ์เหล่านั้นอธิบายและยกย่องคำสอนของตนเองฝ่ายเดียวเท่านั้น และดูถูก ประณามเหยียดหยามหลักธรรมของสมณพราหมณ์เหล่าอื่น ต่อมาก็มีสมณพราหมณ์เหล่าอื่นมาอีก สมณพราหมณ์เหล่านั้นก็เช่นเดียวกันเมื่อถึงทีของตนบ้างก็อธิบายและเชิดชูแต่คำสอนของตนฝ่ายเดียวและดูถูกประณามเหยียดหยามคำสอนของสมณพราหมณ์เหล่าอื่นข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สำหรับพวกข้าพระองค์นั้น พวกข้าพระองค์มีความสงสัยและคลางแคลงใจอยู่เสมอในข้อที่ว่า “ในบรรดาสมณพราหมณ์ผู้น่าเคารพเหล่านี้ ใครกันหนอกล่าวคำสัตย์จริง และพวกไหนกล่าวคำเท็จ”ลำดับนั้น พระพุทธองค์ได้ทรงประทานคำแนะนำอันเป็นคำแนะนำที่ยอดเยี่ยมในประวัติศาสตร์ศาสนาทั้งหลาย แก่กาลามะชนเหล่านั้นว่า “ถูกแล้วกาลามะทั้งหลาย เป็นการสมควรที่เธอทั้งหลายมีความสงสัย มีความคลางแคลงใจ เพราะว่าเป็นเรื่องที่ควรแก่ความสงสัยดูกรชาวกาลามะที่นี้ พวกท่านจงพิจารณาอย่างนี้ว่า : พวกเธอ
๑.Do not be led by reports.
- จงอย่าเชื่อโดยการบอกเล่า
๒.Do not be led by tradition
- จงอย่าเชื่อโดยการนำสืบๆ กันมา
๓. Do not be led hearsay.
- จงอย่าเชื่อโดยการเล่าลือ
๔. Do not be led by authority of Religious texts.
- จงอย่าเชื่อโดยการอ้างคัมภีร์ (ตำรา)
๕. Nor by mere logic.
- จงอย่าเชื่อโดยตรรก
๖. Or inference.
- จงอย่าเชื่อโดยอนุมานตามนัยะ
๗. Nor by considering appearances.
- จงอย่าเชื่อโดยเพียงเห็นกิริยาอาการภายนอก
๘. Nor by the delight in speculative opinions.
- จงอย่าเชื่อโดยความชอบใจในความคิดเห็นของตน
๙ . Nor by seeming possibilities.
- จงอย่าเชื่อโดยเห็นว่าความน่าจะเป็นไปได้
๑๐.Nor by the idea : This is our teacher.
- จงอย่าเชื่อโดยคิดว่านี้เป็นครู อาจารย์ของเรา
ดูกรกาลามะชนทั้งหลาย แต่เมื่อใดท่านทั้งหลายรู้ประจักษ์ด้วยตนเองว่าธรรมทั้งหลายเหล่าใดเหล่าหนึ่งเป็นอกุศล ผิดพลาด ชั่วร้าย เมื่อนั้นจงละทิ้งธรรมเหล่านั้นเสีย และเมื่อใดท่านทั้งหลายรู้ประจักษ์ด้วยตนเองว่า ธรรมทั้งหลายเหล่าใดเหล่าหนึ่งเป็นกุศล ดีงาม เมื่อนั้นจงยอมรับเอาและปฏิบัติตามธรรมเหล่านั้นเถิดพระพุทธเจ้ายังตรัสยิ่งไปกว่านั้นอีก คือพระองค์ตรัสบอกแก่ภิกษุทั้งหลายว่า “สาวกควรพิจารณาตรวจสอบแม้แต่องค์พระตถาคตเอง เพื่อว่าสาวกจะได้มีความมั่นใจโดยสมบูรณ์ในคุณค่าที่แท้จริง ของศาสดาที่ตนประพฤติปฏิบัติตาม”๒
๑ ม.มู. ๑๒/๕๓๕-๙/๕๗๖–๕๘๐.
๒ องฺ. ติก. ๒๐/๕๐๕/๒๔๑.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น