การเกิดขึ้นแห่งองค์ธรรมทั้งหลายเพราะอาศัยกันของสรรพสิ่งซึ่งแสดงถึงกระบวนการเกิดดับของทุกข์มีความเป็นองค์รวมและมีความเป็นพลวัต มีลักษณะเป็นวงจรไม่มีจุดเริ่มไม่มีจุดจบ(สรุปความจากหนังสือ พุทธธรรม โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ป.อ.ปยุตโต).....จากพุทธธรรมข้างต้นนี้ไปสอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์วัตถุนิยมประวัติศาสตร์และวัตถุนิยมวิภาษวิธีอันเกี่ยวกับกฎแห่งความขัดแย้ง หรือกฎของสองด้านแห่งความขัดแย้งที่มีด้านหลักและด้านลองในคู่ขัดแย้งนั้นจะเคลื่อนไหวและพัฒนาต่อสู้กันอย่างต่อเนื่องไม่มีสิ้นสุดจากหลักทฤษฎีพื้นฐานอันนี้ที่ประธานเหมาเจอตงใช้ชี้นำในการเปลี่ยนแปลงสังคมประเทศจีนที่อ่อนแอและล้าหลังให้เป็นประเทศจีนที่ก้าวหน้าและพัฒนาจนมาเป็นประเทศจีนในปัจจุบันที่ทันสมัย
มีชายชราคนหนึ่งชื่อว่า ลุงหยูกง แกตั้งบ้านเรือนอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่หลังภูเขาสองลูกชื่อว่า ไท่เชียงและหวังหวู ภูเขาสองลูกนี้ สูงนับพัน เริน กว้างใหญ่ถึง 700 ตารางลี้ ทุกคนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่หลังเขาทั้งสองลูกนี้ ไม่สะดวกในการเดินทางเพราะภูเขามาปิดกันความ สะดวกสบาย แต่ด้วยความเคยชินไม่มีใครสนใจต่ออุปสักข้อนี้ ลุงหยูกงแกก็ใช้ชีวิติไปตามปกติเหมือนคนทั่วไป หรือแกจะคิดถึงอุปสักข้อนี้ อยู่บ้างตามนิทานก็ไม่ได้บันทึกไว้ และอีกข้อหนึ่งที่นิทานไม่ได้บันทึกไว้ก็คือไม่เคยปรากฏว่าแกเคยเป็นกำานัน ตามนิทานจึงไม่เรียกแกว่า “ลุง กำานัน หยูกง” จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งแกเกิดดำาริขึ้นในใจว่า”เราก็ทำาอะไรต่อมิอะไรมาในชีวิติมากมายถูกบ้างผิดบ้างเป็ นธรรมดาของคน สามัญทั่วๆไป แต่ครั้งนี้เราได้ไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้วว่า ไอ้ภูเขาสองลูกนี้ที่ขวางความเจริญของหมู่บ้านเราอยู่นี้ จะต้องขุดย้ายออกไป ไม่ให้เป็นอุปสักขัดขวางความเจริญก้าวหน้าของหมู่บ้านต่อไปอีก ว่าแล้วแกก็ชวนลูกหลานและเพื่อนบ้านที่เห็นด้วยกับแกให้มาช่วยกันขุดย้าย ภูเขา ยังมีเพื่อนบ้านของลุงหยูกงคนหนึ่งชื่อว่า ลุงจือโช่ว เม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น