เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณพูนสวัสดิ์ ได้ติดต่อมาสอบถามถึงความเป็นมาของการริเริ่มจัดงานสังสรรค์เพื่อน
วทต.ครั้งแรก ผมจำได้ว่าผมเคยเขียนเล่าไว้ในวารสารจดหมายข่าวเพื่อน วทต.
และช่วงหลังที่เขาเริ่มใช้ Line กันผมเคยเขียนไว้ในกลุ่ม
Line เพื่อน วทต.พร้อมสรุปรายงานกิจกรรมต่างๆตั้งแต่ต้น
และมีภาพถ่ายและคลิปวีดิโอประกอบมากมาย ผมได้เก็บไฟล์ข้อมูลทั้งหมดไว้ในฮารดดีสด
พีซี.....เนื่องจากข้อมูลมีมากและยังไม่ได้จัดให้เป็นหมวดหมู่
จึงต้องใช้เวลาในการค้นหาข้อมูล แต่ในเบื้องต้นผมจะเล่าเท่าที่พอจำได้ดังนี้.....พวกเราชาว
วทต.ที่อยู่ในกรุงเทพและจังหวัดใกล้เคียง นัดพบปะกันไม่เป็นทางการอยู่บ่อยๆ
ส่วนใหญ่จะเป็นงานบุญ งานขึ้นบ้านใหม่ งานวันเกิด.....ผมเองเรียนจบที่ วทต.ระดับ
ปวช.ช่างยนต์เมื่อปี ๒๕๐๖ มาอยู่กรุงเทพไม่ค่อยได้พบเพื่อนฝูงเท่าไร
อาจจะเป็นเพราะผมทำงานไม่เหมือนเพื่อนๆ เพื่อนๆส่วนใหญ่ทำราชการ ผมทำงานทางสังคมนอกระบบราชการหรือที่ชาวบ้านเรียก
NGOs ประกอบกับช่วงหนึ่งผมได้ลี้ภัยจากเหตุการณ์ไม่สงบทางการเมืองไปอยู่ต่างประเทศเกือบสิบปี
มีอยู่ครั้งหนึ่งผมไปหาเพื่อนคนหนึ่งเขามีท่าทีกลัวๆผม
ในสายตาเหมือนกับว่าผมเป็นอะไรที่ประหลาดสักอย่าง.....โดยจิตใจผมที่แท้จริงแล้วคิดถึงเพื่อนๆที่เคยเรียนร่วมสถาบันเดียวกัน
จนมาช่วงที่พวกเราอายุอยู่ในวัยเกษียณเป็นส่วนมาก ผมเจอเพื่อนบางคนได้ปรารภกับเพื่อนว่าผมต้องการจะพบปะเพื่อนๆกลุ่มใหญ่สักครั้ง
มีเพื่อนที่เขามีศักยภาพได้นัดเพื่อนๆรุ่นเดียวกันและใกล้เคียงมารับประทานอาหารกันที่ร้านศรแดง
ที่ถนนราชดำเนิน มีเพื่อนมาร่วมประมาณสี่ห้าสิบคนพวกเราเฉลี่ยกันจ่ายค่าอาหาร
และให้เพื่อๆได้ลงทะเบียนเพื่อจะได้ติดต่อกันได้ในการนัดครั้งต่อไป หลังจากนั้นผ่านมาเกือบปี
มีเพื่อนบางคนติดต่อผมว่าพวกเราน่าจะไปเยี่ยมคาราวะอาจารย์วิมล ที่จังหวัดลพบุรี
ผมจึงโทรนัดเพื่อนๆเท่าที่มีข้อมูลติดต่อได้
ผมเชิญมากินขนมจีนที่บ้านผมที่บางบัวทอง ก็มากันหลายคน
ผมจึงปรึกษาเรืองจะไปเยี่ยมคาราวะอาจารย์วิมล ทุกคนก็เห็นด้วยจึงกำหนดวันกัน
เพื่อนๆทุกคนได้สมทบทุนค่าใช้จ่ายรวมค่าของขวัญให้อาจารย์
ครั้งนั้นหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วยังเหลือเงินอยู่ประมาณหกพันกว่าบาท
ผมจึงคิดว่าจะจัดการกับเงินส่วนนี้อย่างไรดี
จึงนัดเพื่อนๆอีกครั้งหนึ่งให้มาทานอาหารกันที่ร้านสวนอาหารชวนชม ถนนงามวงศ์วาน
บางเขน ผมจึงเสนอประเด็นเรื่องว่าจะจัดงานสังสรรค์เพื่อน วทต.อย่างน้อยปีละครั้ง
เพื่อๆทุกคนเห็นด้วย ผมจึงเสนอจัดตั้งเป็นองค์กรเพื่อน วทต.ซึ่งทำงานแบบจิตอาสาเพื่อสังคม ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าจะจัดตั้งขึ้นมาเพื่อจัดงานสังสรรค์เพียงอย่างเดียว
เพราะผมเองในช่วงนั้นยังมีไฟอยู่(ความจริงปัจจุบันก็ยังมีแรงมีไฟไม่ยิ่งย่อนกว่ากัน)และได้เสนอชื่อองค์กรว่า
“ชมรมเพื่อน วทต.”.......ที่ไม่ต้องการใช้ชื่อที่มีคำว่า “ศิษย์เก่า”
ด้วยเหตุผลหนึ่งไม่ต้องการให้ไปพ้องกับสมาคมศิษย์เก่าซึ่งต้องจัดตั้งเป็นทางการและต้องจดทะเบียน(ผมเองไม่ชอบทำอะไรที่มันเป็นระบบราชการ
เพราะองค์กรที่เป็นระบบมากซึ่งมักจะขาดความคล่องตัวและส่วนมากไม่ค่อยเวิร์ก (สำหรับเรื่องนี้ผมเองได้ศึกษา
วิเคราะห์และวิจัยอย่างถึงกึ๋นตลอดระเวลาเกือบสิบปีที่ผมอยู่ที่เมืองจีน
เกี่ยวกับโครงสร้างและกลไกอำนาจรัฐในสังคมไทย)และอีกอย่างหนึ่งผมตั้งใจจะใช้องค์กรเป็นที่รวมความเป็นมิตรภาพ
มิตรจิตมิตรใจและให้ความเคารพซึ่งกันแหละกันตามบทบาทและฐานะเพราะผมเล็งเห็นว่ามันไม่น่าจะเป็นที่รวมของผู้เคยเรียนในสถาบันแห่งนี้เท่านั้น
แม้กระทั่งคนที่เคยสอน เคยทำหน้าที่อย่างอื่นของสถาบันแห่งนี้
เราน่าจะจัดเป็นเพื่อนมิตรกันได้
ผมเองไม่คิดแม้แต่สักนิดที่จะไม่เคารพครูบาอาจารย์ แต่ผมคิดว่าความเป็นมิตรกับการเคารพให้เกียรติ์ซึ่งกันแหละกันซึ่งน่าจะมีคุณค่ามากกว่าการแสดงออกที่ทำให้มองไปว่ามันเป็นระบบอุปถัมภ์
และได้จัดตั้งเป็นองค์กรแบบหลวมๆ และได้มีเพื่อนมิตรหลายท่านมีจิตอาสาเข้าเป็นกรรมการประมาณสิบกว่าท่าน
แต่เราไม่ได้จัดตั้งตำแหน่งหน้าที่เหมือนองค์กรที่เป็นทางการนัก
จะมีเฉพาะหน้าที่ที่มีความจำเป็นและมีความคล่องตัวต่อการทำงานประมาณนี้
๑.ผู้ประสานงาน
๒.การเงิน
๓.ประชาสัมพันธ์
ซึ่งผมทำหน้าที่ผู้ประสานงานถ้าจำไมผิดมีคุณกัลยานี เดชะวันโต เป็นการเงิน
และคุณนิพนธ์ ชูชลิตกุลเป็นประชาสัมพันธ์
ส่วนท่านอื่นเป็นคณะกรรมการ และได้กำหนดการจัดงานสังสรรค์ครั้งต่อไปคือ”งานสังสรรค์เพื่อน
วทต.ครั้งที่๒” ต่อจากนั้นเราได้จัดงานสังสรรค์เพื่อน วทต.ตลอดมาทุกปี ปีละครั้ง
ก่อนจัดงานเรามีประชุมกรรมการ ๒-๓ ครั้ง
และหลังจัดงานเสร็จเราจะประชุมสรุปงานทุกครั้ง
ส่วนคณะกรรมการและโครงสร้างการทำงานขององค์กรเรามีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาบ้าง
มีเพื่อนบางคนเสนอให้มีตำแหน่งประธานชมรมเพื่อน วทต. จึงให้เสนอรายชื่อผู้ที่จะทาบทามเป็นประธานฯ
มีผู้เสนอรายชื่อมากกว่าสองท่านและได้คัดเลือกในที่ประชุม มีมติเป็นเอกฉันท์
ให้ทาบทามคุณประมวล เป็นประทานชมรมฯ
ในการประชุมทุกครั้งผมทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการประชุม
ส่วนคุณประมวลทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม
ผมเองเป็นผู้บันทึกการประชุมและรายงานให้คณะกรรมการรับทราบทุกครั้งตลอดมา
และได้รายงานกิจกรรมต่างๆให้เพื่อนสมาชิกทราบทางวารสารจดหมายข่าวเพื่อน วทต.มาตลอดเช่นต่อไปนี้เป็นรูปแบบ
โครงสร้างของชมรมฯ และรูปแบบรายงานการประชุมและกิจกรรม
โครงสร้าง ชมรมเพื่อน วทต.
·
ที่ประชุมใหญ่ของสมาชิกชมรมเพื่อน
วทต.
·
คณะกรรมการบริหารชมรมเพื่อน
วทต.
สมาชิกในที่ประชุมใหญ่เป็นผู้คัดเลือกคณะกรรมการชมรมฯจำนวน ๑๙ ท่านเป็นกรรมการบริหารชมรมฯโดยมี
-ประธานชมรมเพื่อนวทต.1 ท่าน มีหน้าที่เป็นประธานในการประชุมใหญ่ของสมาชิก
ชมรมเพื่อน วทต.และเป็นประธานคณะกรรมการบริหาร
-รองประธาน ชมรมฯ 1 ท่าน มีหน้าที่เป็นประธานในการประชุมใหญ่ของสมาชิกและเป็นประธานคณะกรรมการบริหารตามที่ประธานได้มอบหมาย
·
คณะกรรมการดำเนินงานชมรมเพื่อน
วทต
จากมติที่ประชุมใหญ่ของสมาชิกชมรมเพื่อนวทต.กำหนดให้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาจำนวนหนึ่งโดยยึดหลัความคล่องตัวและทำงานแบบจิตอาสาเพื่อดำเนินกิจกรรมของชมรมหรือนำมติหรือข้อตกลงในที่ประชุมใหญ่ของสมาชิกที่เป็นนโยบาย
นำมาดำเนินกิจกรรมในทางปฏิบัติการ โดยเรียกกรรมการชุดนี้ว่า “คณะกรรมการดำเนินงานชมรมเพื่อนวทต.”มีเลขาธิการชมรมเพื่อนวทต.เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินงานชมรมเพื่อน
วทต มีหน้าที่
เรียกประชุมกรรมการ,กำหนดวาระการประชุมและเป็นประธานในการประชุม
งานในคณะกรรมการดำเนินงานให้กำหนดตามความจำเป็น ความคล่องตัว และจิตอาสา ไม่จำเป็นต้องกำหนดตำแหน่งที่เป็นมาตรฐานตายตัวที่มีลักษณะแข็งตัวซึ่งอาจจะไม่สอดคล้องกับลักษณะความเป็นจริงในทางปฏิบัติ
·
งานนายทะเบียนสมาชิก
·
งานการเงิน
·
งานการบัญชี
·
งานประสานงาน
·
งานเผยแพร่และประชาสัมพันธ์
ตัวอย่างสรุปรายงานกิจกรรมชมรมเพื่อน
วทต.
หลังจากจัดงานสังสรรค์เพื่อนวทต.ครั้งที่
5ที่สวนอาหารชวนชม บางเขน กรุงเทพ เมื่อวันที่ 12
มิถุนายน 2556 ไปแล้วนั้น คณะกรรมการได้นัดประชุมกัน 1 ครั้ง เพื่อสรุปงาน สรุปจุดอ่อนจุดแข็ง ทั้งเพื่อน ๆ
สมาชิกและคณะกรรมการสรุปไปในทางเดียวกันว่า
การจัดงานครั้งนี้ประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ไว้ดีพอสมควร มีเพื่อน ๆ
สมาชิกเข้าร่วมงานมากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ ทำให้สถานที่คับแคบไปหน่อย
เพราะคณะกรรมการประเมินว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่เกิน 70 คน
แต่ในวันจัดงานจริงวันนั้นมีผู้เข้าประชุมประมาณถึง 100 ท่าน
ในการประชุมครั้งนี้
แม้ยังมีจุดอ่อนอยู่บ้างเป็นธรรมดาที่ยังไม่สรุปออกมาเป็นรูปธรรม
แต่คณะกรรมการทุกท่านย่อมตระหนักอยู่ในใจแล้วว่ายังต้องปรับปรุงให้ดีไปกว่าเดิม
หากเพื่อนๆเห็นว่ายังมีอะไรที่จะต้องปรับปรุงแก้ไข ในกิจกรรมทุกเรื่องที่ชมรมฯ
ได้ดำเนินการไป โปรดแจ้งไป
จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งและคณะกรรมการยินดีที่จะรับฟังและจะนำไปปรับปรุงแก้ไขต่อไป
ต่อไปนี้ เป็นสรุปรายงานประชุมของกรรมการในรอบปี
ตั้งแต่การจัดงานสังสรรค์ฯครั้งที่ 4 ที่โรงแรมริชมอนด์
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2555
จนถึงการจัดงานสังสรรค์ครั้งที่ 5 ที่สวนอาหารชวนชม
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2556 ดังนี้
1.
สรุปการประชุมกรรมการเมื่อวันที่ 11
กันยายน 2555 ที่โรงแรมโกลเด้นดราก้อน
1.1.
ผลการสำรวจความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ
1.1.1.
รูปแบบการจัดตั้งคณะทำงาน
1.1.2.
มีเสนอให้คัดเลือกกรรมการชมรมฯ
1.1.3.
มีเพื่อนสมาชิกเสนอให้จัดกิจกรรมโดยการหาทุน
1.1.4.
เสนอทำสื่อของชมรม
1.2.
รูปแบบการจัดตั้งคณะทำงานควรเป็นรูปแบบใด
1.2.1.
มีผู้ตอบว่า
ควรจัดให้มีการจัดตั้งคณะทำงานแบบมาตรฐาน มีตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบที่แน่นอน
คิดเป็น 33%
1.2.2.
มีผู้ตอบว่า
ควรจัดให้มีการจัดตั้งคณะทำงานแบบหลวมๆ ร่วมกันทำงานด้วยจิตอาสา คิดเป็น 67%
1.2.3.
มีผู้เสนอให้มีการคัดเลือกรรมการชมรมฯทุกปี
1.2.4.
มีเพื่อนสมาชิกหลายท่านเสนอให้จัดกิจกรรมโครงการหาทุนเพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมต่าง
ๆ ของชมรมฯ
1.2.5.
มีเพื่อนๆ
สมาชิกเสนอความเห็นว่าน่าจะหากิจกรรมหรือแนวทางใดที่ช่วยให้เพื่อนๆสมาชิกและคณะทำงานมีการติดต่อสื่อสารได้อย่างต่อเนื่องทั่วถึงและเป็นการสื่อสารสองทาง
จากการสำรวจความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่าง
ๆ ทางชมรมฯได้นำมาแปลงเป็นรูปธรรมและดำเนินเป็นแนวปฎิบัติดังนี้
1)
การทำงานของคณะกรรมการในส่วนที่สำคัญ
ทางชมรมได้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้นโดยต่อเนื่องเป็นระบบและสามารถตรวจสอบได้
จึงมีกรรมการจำนวนหนึ่งที่ทำหน้าที่แน่นอน ดังนี้
(1)
คุณประมวล พัฒน์ทอง เป็นประธานชมรมฯ
(2)
คุณชูวงศ์ ละอองศิริวงศ์ เป็นรองประธานชมรมฯ
(3)
คุณนิพนธ์ ชูชลิตกุล เป็นผู้ประสานงานและฝ่ายการเงิน
(4)
คุณพูนสวัสดิ์ สงนาวา เป็นผู้ประสานงานและฝ่ายการเงิน
(5)
คุณกัลยานี เดชะวันโต เป็นฝ่ายการเงินและบัญชี
(6)
คุณวีระ
สระกวี เป็นเลขาธิการชมรมฯ
การดำเนินงานของชมรมได้ใช้เงื่อนไขความคล่องตัวของคณะกรรมการแต่ละท่าน
วาระประชุมและองค์ประชุมแต่ละครั้งจะไม่กำหนดตายตัวแน่นอน
เมื่อกรรมการเข้าร่วมประชุมมากพอสมควรก็ถือว่าครบองค์ประชุม
บางครั้งใช้วิธีประชุมแบบขยายวง
โดยเชิญสมาชิกทั่วไปที่ไม่เป็นกรรมการเข้าร่วมประชุมเพื่อช่วยกันระดมความคิดเห็นด้วย
ในการประชุมแต่ละครั้งมีผู้เข้าร่วมประมาณ 15 ท่าน
ในการประชุมแต่ละครั้งแม้ว่าทางชมรมฯได้กำหนดให้เบิกเงินของชมรมได้ครั้งละไม่เกิน 3,000 บาท แต่ในการประชุมในแต่ละครั้ง
เรามักถือปฏิบัติเป็นประเพณีไปแล้วที่ผู้เข้าร่วมประชุมจะออกเงินสมทบค่าใช้จ่ายในการประชุม
ซึ่งหลายครั้งเมื่อจัดการประชุมของชมรมฯจะเหลือเงินเข้ากองกลางของชมรมฯ
2.
ที่ประชุมคณะกรรมการชมรมฯ เมื่อวันที่ 11
กันยายน 2555 มีมติให้ชมรมฯดำเนิน
“โครงการวารสารจดหมายข่าวชมรมเพื่อนวทต.” โดยมีคุณประมวล พัฒน์ทอง
เป็นผู้อำนวนการโครงการ คุณชูวงศ์ ละอองศิริวงศ์ เป็นรองผู้อำนวยการโครงการ
และมีกรรมการชมรมเพื่อน วทต.ทุกท่านเป็นคณะประจำกองบรรณาธิการ โดยมีคุณวีระ สระกวี
เป็นบรรณาธิการบริหารโครงการ
3.
มติที่ประชุมกรรมการชมรมฯ
ให้การจัดงานครั้งต่อจากครั้งที่ 5 ซึ่งจัดไปแล้วเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2556 ที่จังหวัดสงขลา
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ศรีวิชัย (วทต.เดิม)
ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสถาบันของเรา โดยมีกรรมการไปประชุมร่วมกับเพื่อนสมาชิก วทต.ที่อยู่จังหวัดสงขลาหรือจังหวัดใกล้เคียงเมื่อวันที่
12 มิถุนายน 2556
4.
จากการประชุมร่วมของคณะกรรมการชมรมเพื่อน วทต.กับเพื่อนสมาชิกเมื่อวันที่
12 มิถุนายน 2556 มีข้อสรุปจากที่ประชุม ดังนี้
1)
การจัดงานสังสรรค์เป็นรูปแบบศิษย์เก่าวทต.
ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลเทคนิคภาคใต้ สงขลา
และศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ศรีวิชัย
2)
กำหนดวันจัดงานวันที่ 5
มิถุนายน 2557
โดยใช้สถานที่ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ศรีวิชัย เป็นสถานที่จัดงาน
3)
ที่ประชุมได้เสนอให้ คุณประมวล พัฒน์ทอง
เป็นประธานจัดงาน และ ร.ต.อนันต์ หังสพฤกษ์ เป็นรองประธานจัดงาน
4)
ที่ประชุมได้เสนอให้มีการจัดตั้งสมาคมศิษย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
ศรีวิชัย ซึ่งรวมไปด้วยศิษย์เก่าวทต. ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
วิทยาเขตภาคใต้ โดยเสนอให้คุณประมวล พัฒน์ทอง เป็นประธานสมาคมศิษย์เก่าเป็นคนแรก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น